คณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. ร่วมกับเครือข่ายผู้จัดเทศกาลวัฒนธรรม ระดมสมองปลุกปั้น “นวัตกรเทศกาลวัฒนธรรม” เข้าสู่ระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภายใต้โครงการวิจัยขนาดใหญ่

        เมื่อวันพุธที่ 17 กันยายน 2568 ที่ผ่านมาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.ดร.บุรินทร์ เปล่งดีสกุล คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย พร้อมด้วยคณะนักวิจัยประกอบด้วย รศ.ดร.บุรินทร์ เปล่งดีสกุล ผศ.ดร.พชญ อัคพราหมณ์ รศ.ดร.ธรณัส หินอ่อน ผศ.ดร.วิจิตร วินทะไชย
       รศ.ดร.พงษ์พิทยา สัพโส รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร รศ.ดร.สืบศิริ แซ่ลี้ และผู้ช่วยนักวิจัย ได้แก่ ดร.ภาณุวัฒน์ จันทาพูน และ ดร.พัชรี หงษ์ทอง ได้จัดกิจกรรมสนทนากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Focus Group) ภายใต้โครงการวิจัย “การพัฒนาหลักสูตรการสร้างนวัตกรเทศกาลวัฒนธรรมโดยใช้กระบวนการทางศิลปกรรมเพื่อนำเสนอคุณค่าท้องถิ่นและสร้างความหลากหลายให้กับเทศกาลวัฒนธรรมของประเทศไทย” โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) โดยมีหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มนักสร้างสรรค์เทศกาลชุมชนเข้าร่วมอย่างหนาแน่น
การระดมสมองครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้แทนและผู้ปฏิบัติงานเทศกาลวัฒนธรรมในพื้นที่ภาคอีสาน อาทิ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ขอนแก่น (CEA ขอนแก่น) สภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) มูลนิธิประยูรเพื่อศิลปะ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น ม.ขอนแก่น เทศบาลเมืองบ้านไผ่ เครือข่ายสื่อศิลปวัฒนธรรมภาคอีสาน กลุ่มจุ้มบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี กลุ่มสกลเฮ็ด จังหวัดสกลนคร และบริษัท สินไซโมเดล จำกัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ร่วมผนึกกำลังกับนักวิจัยในโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วยคณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะวิทยาการสารสนเทศ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อร่วมกันสะท้อนมุมมองและกำหนดทิศทางการสร้างและพัฒนาบุคลากรด้านเทศกาลวัฒนธรรมของท้องถิ่นและประเทศไทย
       รศ.ดร.บุรินทร์ เปล่งดีสกุล กล่าวถึงความสำคัญของโครงการว่า “เป้าหมายหลักของโครงการวิจัยคือการสร้างกำลังคนด้านเทศกาลวัฒนธรรมที่มีทักษะสูง สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปต่อยอดสร้างอาชีพและพัฒนาเทศกาลในท้องถิ่นของตนเองได้อย่างยั่งยืน การวิจัยจึงมุ่งออกแบบหลักสูตรฝึกอบรมที่ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สำคัญคือ ผู้ที่ผ่านการอบรมและประเมินทักษะในระดับกลางจะได้เข้าร่วมคัดเลือกปฏิบัติการสร้างเทศกาลวัฒนธรรมในพื้นที่จริง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์จากการลงมือทำ และยกระดับเป็นนวัตกรเทศกาลวัฒนธรรมทักษะสูง โดยมีทีมนักวิจัยเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด”
สำหรับการสนทนากลุ่มในครั้งนี้ ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.พชญ อัคพราหมณ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และศิลปวัฒนธรรม หนึ่งในทีมนักวิจัยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน 4 ประเด็นสำคัญ โดยแต่ละประเด็นล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการออกแบบหลักสูตรเพื่อสร้างและพัฒนานวัตกรเทศกาลวัฒนธรรมให้ตรงเป้าหมายของโครงการวิจัย
โดยสาระสำคัญประกอบด้วย
1. วิเคราะห์จุดแข็งและข้อจำกัดของเทศกาลวัฒนธรรม การทำความเข้าใจบริบทจริงของเทศกาล ทั้งในมิติของพลังขับเคลื่อนจากชุมชนและอุปสรรคเชิงโครงสร้าง อันเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้หลักสูตรสามารถออกแบบเนื้อหาที่มุ่ง “เสริมจุดแข็งและอุดช่องว่าง” ได้อย่างแม่นยำ ทำให้นวัตกรที่ผ่านการอบรมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาและต่อยอดศักยภาพของเทศกาล
ในพื้นที่ของตนเองได้
2. ทำความเข้าใจบทบาทและความท้าทายของผู้จัดเทศกาล โดยมุ่งประเด็นความท้าทายที่ผู้จัดงาน
ต้องเผชิญในโลกความเป็นจริง ตั้งแต่การบริหารจัดการไปจนถึงการประสานงานกับภาคส่วนต่าง ๆ
ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับนวัตกรในอนาคต โดยหลักสูตร
จะสามารถออกแบบ “กรณีศึกษา” ที่เป็นการปฏิบัติงานจริง เพื่อเตรียมความพร้อมให้นวัตกรสามารถรับมือกับความกดดัน และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมืออาชีพ
3. สำรวจองค์ความรู้ด้านศิลปกรรมและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ประเด็นนี้มีความสำคัญและเป็นแกนสำคัญของโครงการวิจัย โดยในกลุ่มสนทนาชี้ให้เห็นว่า “ศิลปกรรม” เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความคิด (concept) การออกแบบเทศกาล การสื่อสาร การสร้างประสบการณ์กับผู้เข้าร่วมเทศกาล รวมถึงสามารถยกระดับคุณค่าเทศกาลที่เชื่อมโยงไปถึงมูลค่าที่จะเกิดขึ้นในเทศกาลได้ ประเด็นนี้ช่วยขยายมุมมองให้กับทีมวิจัย เพื่อที่จะบูรณาการศาสตร์ด้านศิลปกรรม อาทิ ทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง ดนตรี สื่อดิจิทัล เข้ากับศาสตร์ด้านการบริหารจัดการและการตลาด เพื่อส่งเสริมคุณค่าของทุนวัฒนธรรมให้สื่อสารคุณค่าและสร้างมูลค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม มุมมองความคิดในการระดมสมองกลุ่มผู้จัดเทศกาลวัฒนธรรมและนักวิจัยในครั้งนี้
จะถูกนำไปสังเคราะห์เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบและพัฒนาหลักสูตร “นวัตกรเทศกาลวัฒนธรรม”
ที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วนต่อไป

Highlights